กิจกรรมที่ 8
ให้นักศึกษาศึกษาพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ.2546
เอกสารพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ.2546
เมื่อนักศึกษาอ่านพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ.2546 แล้วตอบคำถามดังต่อไปนี้
1. พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ประกาศใช้เมื่อใด และมีผลบังคับใช้เมื่อใด
พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้
ประกาศใช้เมื่อ 9 ตุลาคม 2546
และมีผลบังคับใช้วันที่ 10 ตุลาคม 2546
2.ผู้รักษาตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือใคร
ผู้รักษาตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือ
นายกรัฐมนตรี
3.เหตุผลที่ประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เพราะอะไร
ข้าพเจ้าคิดว่าเ ในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ
โดยที่มีการปฏิรูประบบราชการ
เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการตอบสนองต่อการพัฒนาประเทศ
และให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ซึ่งการบริหารราชการและการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการนี้
ต้องใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เกินความจำเป็น
และประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ
รวมทั้งมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอและเนื่องจาก มาตรา 3/1 แห่ง
พระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 บัญญัติให้การกำหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการในการปฏิบัติราชการและการสั่งการให้ส่วนราชการและข้าราชการปฏิบัติราชการ
เพื่อให้เกิดการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีกระทำโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
4.พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มีกี่หมวดกี่มาตรา ประกอบด้วยอะไรบ้าง
พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มี 9 หมวด ประกอบด้วย 53 มาตรา ประกอบด้วย
พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มี 9 หมวด ประกอบด้วย 53 มาตรา ประกอบด้วย
หมวดที่ ๑
การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี มาตรา ๖
หมวดที่ ๒
การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน มาตรา ๗ – มาตรา ๘
หมวดที่ ๓
การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มาตรา ๙
หมวดที่ ๔
การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
มาตรา ๒๐ - มาตรา ๒๖
มาตรา ๒๐ - มาตรา ๒๖
หมวดที่ ๕
การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน มาตรา ๒๗ - มาตรา ๓๒
หมวดที่ ๖
การปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการ มาตรา ๓๓ - มาตรา ๓๖
หมวดที่ ๗
การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน
มาตรา ๓๗ - มาตรา ๔๔
หมวดที่ ๘
การประเมินผลการปฏิบัติราชการ มาตรา ๔๕ - มาตรา ๔๙
หมวดที่ ๙ บทเบ็ดเตล็ด มาตรา ๕๐
- มาตรา ๕๓
5.วัตถุประสงค์ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ประกอบอะไรบ้าง
วัตถุประสงค์ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้
1. เกิดผลประโยชน์สุขของประชาชน
2.
เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
3. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
4.ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น
5.
มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อเหตุการณ์
6.
ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ
7.
มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ
6.หน่วยงานใดที่มีหน้าที่ร่วมกันในการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
หน่วยงานใดที่มีหน้าที่ร่วมกันในการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
คือ คณะรัฐมนตรีสำนักเลขาธิการ
นายกรัฐมนตรีสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ
7.หลังจากที่คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนต้องดำเนินการจัดทำแผนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาภายในกำหนดเวลากี่วัน
เมื่อคณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงบประมาณ ร่วมกันจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
8.แผนบริหารราชการแผ่นดินนั้น
กำหนดให้จัดทำแผนกี่ปี
แผนบริหารราชการแผ่นดินนั้น กำหนดให้จัดทำแผน 4
ปี
โดยนำนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภามาพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และแผนพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
9.ผู้ที่ทำหน้าที่ประเมินหน่วยงานของรัฐตามพระราชกฤษฎีฉบับนี้คือใคร
ผู้ที่ทำหน้าที่ประเมินหน่วยงานของรัฐตามพระราชกฤษฎีฉบับนี้
คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานงบประมาณ
10.การประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้
ประเมินอะไรบ้าง อธิบาย
การประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้
ประเมินความคุ้มค่า
ให้คำนึงถึงประเภทและสภาพของแต่ละภารกิจความเป็นไปได้ของภารกิจหรือโครงการที่ดำเนินการ
ประโยชน์ที่รัฐและประชาชนจะพึ่งได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น